Sun Datacomm ช่วยงาน Network & IT ท่านได้อย่างไร ?
(บทความโดย : จุมพฏ กาญจนกำธร 0827823346, email:jumpot@sun-datacom.co.th)
บริษัทซันดาต้าคอมม์ เป็นบริษัทที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจจริง ว่า“โซลูชั่น สินค้าและการบริการที่เรามีอยู่ จะทำอย่างไร ? ที่จะช่วยให้สิ่งเหล่านี้เป็นประโยชน์กับองค์กรของลูกค้ามากที่สุด“สิ่งที่เรามี คือ วิสัยทัศน์ บุคลากร เทคโนโลยี คู่ค้า ผลิตภัณฑ์ และการจัดการวิสัยทัศน์ของผู้บริหารเรา คำนึงถึง Care and Share หมายถึงเราให้ความสำคัญอย่างมากในความสำเร็จของผลประกอบการของลูกค้าของเรา และเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะให้และให้ และพร้อมที่จะช่วยเหลือหรือสนับสนุนลูกค้าเราทุกด้าน หลายครั้ง ลูกค้าเราต้องการระบบงานให้ใช้ได้ก่อนแต่ต้องรองบประมาณ เราก็ยินดีสนับสนุนอุปกรณ์และการฝึกอบรม พร้อมติดตั้งระบบให้ก่อนเมื่องบประมาณเมื่อไรก้อชำระสะสางกันเมื่อนั้น โดยอาจจะมีค่าใช้จ่ายให้พวกไฟแนนท์เพิ่มบางแต่เราก็ไม่ได้เอาเปรียบลูกค้าเลย หรือลูกค้าบางองค์กรมีปัญหาเรื่องบุคคลกร เข้าเข้าออกออก อบรมไปแล้วเก่งกาจสามารถ ก็ไปทำงานที่อื่นบ่อย ๆ เราก็ช่วย จัดฝึกอบรมพนักงานรุ่นปัจจุบันให้ หรือลูกค้าต้องการทำงานที่ถนัดของตัวเองอย่างเดียว และมอบหมายให้เราเป็นผู้รับผิดชอบงานฝ่ายไอทีทั้งหมด (outsource) เราก็ยินดีทำ โดยส่งทีมงานเข้าไปนั่งทำงานร่วมกับลูกค้าและสนับสนุนให้พนักงานถ่ายทอดความรู้ต่าง ๆ ให้ลูกค้า เพื่ออนาคตเขาจะสามารถเป็นกำลังสำคัญให้กับองค์กรลูกค้าต่อไปได้เราตระหนักดีว่า ความสำเร็จของธุรกิจปัจจุบัน คือ การจัดการเรื่องเวลา การจัดการด้านการลงทุน และการจัดการด้านการบริหารงาน ระบบไอทีที่ลงทุนไปมากมายจะไม่ได้เพิ่มผลกำไรกับองค์กรเลย หากขาด 3 เรื่องหลักนี้ เรามีการลงทุนทุกอย่างอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะซื้อเทคโนโลยีดีดี ทันสมัยมาใช้ มีคนพร้อม แต่ต้องใช้เวลาเยอะ คู่แข่งทั้งหลาย ก็แซงไปแล้ว หรือเรามีพร้อมทุกอย่าง แต่ขาดการจัดการที่ดี ก็สู้เขาไม่ได้อีก หรือหากมีอื่น ๆ ดี แต่ขาดเรื่องเงิน ก็สู้ไม่ได้อีกเช่นกัน ...
เหล่านี้คือปัญหาของหลาย ๆ องค์กร...ทางบริษัทฯและผู้บริหารของเรา เล่งเห็นความสำคัญของปัญหาเหล่านี้ เราจึงมีทีมงานที่มีบุคคลกรที่มีประสบการณ์ด้านไอที มีความรู้ด้านบริหารและมีเครือข่ายในธุรกิจ สถานบันต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ มาช่วยค้นหา หรือช่วยประเมินด้านไอที ว่า มีความมั่นคงปลอดภัยเพียงใด มีการลงทุนไปแล้วให้ประโยชน์คุ้มค่าแค่ไหน อย่างไร และควรพัฒนาปรับปรุงอะไรบ้าง และอย่างไร ลูกค้าก็จะได้ประโยชน์คือ ระบบงานที่มีความมั่นคง มีเสถียรภาพ และประสิทธิภาพที่ดี สามารถแข่งขันและเป็นผู้นำในธุรกิจของตนได้ โดยใช้ ไอซีที เป็นเครื่องมือ หรือยานพาหนะไปสู่ความสำเร็จขององค์กรบุคลากร บุคลากรของเราเป็นบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ มีความรับผิดชอบ และมีวิสัยทัศน์ที่ยาวไกล ลูกค้าของเราหลาย ๆ องค์กร ประทับใจในการให้บริการ ให้เราได้ร่วมประชุมเพื่อทำงานด้าน การแก้ไขปัญหาของระบบที่เกิดขึ้น เช่น ทำไมระบบเครือข่ายช้าจัง ? ทำไมมีเมล์แปลกหน้า อันไม่พึงประสงค์เข้ามา เยื่ยมเยือนในระบบบ่อย ๆ ทำให้ มีผลต่อระบบพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นเมล หรือแอปปิเคชั่น อันเนื่องจากแขกเหล่านั้น เป็นฝ่ายที่ก่อให้เกิดความไม่สงบในระบบของเรา บางครั้งแถมแบกหรือนำพาโรคภัยไข้เจ็บมาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้เราอีกด้วย เหล่านี้เป็นภัยคุกคามระบบ เช่น พวกไวรัส โทรจัน สแปม หรือรูปแบบการแฮกและแครกเกอร์ ต่าง ๆ เหล่านี้ เราสามารถช่วยลูกค้าเราวิเคราะห์ ประเมิน สรุปสาเหตุ เยียวยา รักษา หรืออาจถึงกับต้องบูรณะระบบใหม่ โดยเรามีเป้าหมายคือ ให้ระบบสามารถดำเนินต่อไปได้ งานประจำไม่เสียหาย การลงทุนให้น้อยที่สุด แต่ให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด และที่สำคัญเรามีการวางแผนในอนาคตว่า หากต้องขยายระบบต่อไปจะต้องใช้สิ่งที่มีให้คุ้มค่าที่สุด เช่น สามารถเพิ่มขยายอุปกรณ์ในระบบหลัก ดีกว่า ให้ซื้อใหม่ ไปเรื่อย ๆ เป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุดเพื่อสนองตอบนโยบายกรีนไอที หรือขยะจากคอมพิวเตอร์เทคโนโลยี คู่ค้า และผลิตภัณฑ์คู่ค้าและผลิตภัณฑ์ เป็นสิ่งสำคัญมากในความสำเร็จของการจัดการด้านไอซีที เมื่อเรามีการประเมิน และทราบปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในระบบไอซีทีรวมถึงระบบงานหลักขององค์กรแล้ว เราต้องมี ทีมงานที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยี มีสินค้าที่เหมาะสม เพื่อนำมาใช้งานและเป็นที่ปรึกษาในการแก้ปัญหาเหล่านั้นคู่ค้าของเรา มีหลายระบบงาน มีทีมงานที่เชี่ยวชาญ มีสินค้าที่เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกหากองค์กรเรามีปัญหาปัญหาความไม่เสถียรภาพของระบบเครือข่าย ช้าไป ล้มบ่อย โดนคุกคามประจำ เรามี Brocade Network จากประเทศสหรัฐอเมริกา มาช่วยสนับสนุน งานด้าน IP Network, Storage Network, Sever Load Balance, Mobility, Software Network Monitoring, Security, etc.ปัญหา ต้องการสื่อสารกับบุคลกรในองค์กร อย่างรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย เรามีระบบ SMS Transfer: เหมาะกับการสื่อสารเชิงรุกกับเจ้าหน้าที่หรือนักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ ให้ทราบข้อมูลที่ควรทราบ โดยผ่านระบบเครื่อข่ายโทรศัพท์ปัญหา สายเคเบิลไฟเบอร์ ขาดบ่อย ไม่มีเส้นทางสำรอง หรือ ปัญหาสาย UTP รก อีรุงตุงนัง ไม่รู้เส้นไหนเป็นเส้นไหน ดูแล บำรุงรักษายากมาก เราก็มีบริการด้านการตรวจสอบ วางระบบใหม่ พร้อมคู่มือเส้นทางและอุปกรณ์ ให้ทั้งเป็นเอกสารและอิเล็คทรอนิคส์ เพื่อลูกค้ารับไปดูแลต่อได้ ไม่ว่าบุคลากรจะเปลียนแปลงโยกย้ายอย่างไร ระบบเราก็ยังดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องการจัดการเรามีการพัฒนาสู่ระบบ ITIL (Information Technology Infrastructure Library) ซึ่งเป็น Best Practices ที่ใช้ในการจัดการการให้บริการทางด้าน ITปกติองค์กรหลายองค์กรจะประสบปัญหาหลายอย่าง เช่น
1. พนักงานปฏิบัติงานไปตามความคิดของตนเองว่าควรทำอะไร การปฏิบัติงานจึงไม่เหมือนกัน
2. ผลของการให้บริการขึ้นอยู่กับพนักงานแต่ละคน
3. ผู้บริหารไม่สามารถบอกได้ว่าสถานภาพปัจจุบันของการให้บริการเป็นอย่างไร
4. ผู้รับบริการไม่พอใจหากบริการแต่ละครั้งไม่เหมือนกัน หรือ ได้รับบริการที่ไม่เหมาะสม
5. องค์การไม่สามารถคาดคะเนผลลัพธ์ของการให้บริการได้ ไม่ว่าจะในด้านแรงงาน, ค่าใช้จ่าย,เวลา ผลลัพธ์, และ คุณภาพเหล่านี้เป็นปัญหาที่เกิดจากการไม่มีระบบการจัดการที่เหมาะสม เราสามารถนำระบบงานที่สนับสนุนการทำงานให้มีกระบวนการที่เหมาะสม จะมีประโยชน์หมายประการ สำหรับองค์กร เช่น
1. ช่วยให้หน่วยงานมีมาตรฐานในการปฏิบัติงาน
2. ผู้ปฏิบัติงานไม่สับสนในการทำงาน
3. ทุกคนในหน่วยงานทำงานด้วยขั้นตอนแบบเดียวกัน
4. ผู้บริหารแน่ใจว่าผลงานที่ออกมาจะต้องดีเกินกว่าระดับต่ำสุดไม่ว่าจะให้ใครทำ
5. สามารถตรวจสอบได้หากมีการทำงานผิดพลาด หรือ ไม่เป็นไปตามขั้นตอน
6. สามารถวัดผลและดัชนีที่เกี่ยวข้องได้
7. ใช้เป็นเครื่องมือในการฝึกอบรมพนักงานใหม่
ITIL จะประกอบไปด้วยความรู้ที่จัดอยู่ในกรอบการบริหารจัดการบริการทางด้าน IT ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 2 เรื่องคือ Service support และ Service Delivery สำหรับด้านอื่นๆที่มีออกมาในภายหลังเช่น Planning to Implement Service Management หรือ Application Management ITIL จัดว่าเป็นการรวบรวมเอาความรู้ที่มีอยู่แล้วในการบริหารจัดการศูนย์ฯ ซึ่งได้ถูกนำไปใช้แล้วในวงการอุตสาหกรรมต่างๆที่จำเป็นต้องใช้ IT ในช่วงเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ITIL จึงถูกเรียกว่าเป็น Best Practice ของการบริหารจัดการ IT ซึ่งในเวลาต่อมาได้มีการกล่าวถึง ITIL ในแง่ที่เป็น IT Service Management Framework กันอย่างแพร่หลาย และได้กลายเป็น de facto standard ไปในปัจจุบัน ประโยชน์จากการนำความรู้ ITIL มาใช้นั้น คือประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการที่สามารถปรับปรุงกระบวนการให้ดีขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง ซึ่งได้แก่การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ได้คุ้มค่ามากขึ้นสร้างเสริมความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดช่วยลดงานซ้ำซ้อนหรืองานที่ไม่จำเป็นลงได้ช่วยทำให้งานแต่ละโปรเจคท์ดำเนินไปได้ตามที่วางแผนไว้ปรับปรุงความสามารถในการให้บริการ IT แก่ลูกค้าให้ดีขึ้นสามารถหาต้นทุนของการให้บริการที่มีคุณภาพตามที่กำหนดได้สามารถให้บริการที่มีคุณภาพแก่ลูกค้าได้ตามที่สัญญาไว้การนำ ITIL มาใช้นั้น เป็นการปรับกระบวนการในสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว (เพียงแต่อาจจะยังไม่เป็นระเบียบ) และการปรับกระบวนการนั้นไม่ได้มีจุดมุ่งหมายอยู่ที่เครื่องมือที่จะนำมาใช้ หากแต่เป็นการนำความรู้มาใช้มากกว่า ดังนั้นการปรับเปลี่ยนกระบวนการจึงมุ่งเน้นที่การที่บุคคลากรทั้งภายในและ หรือนำมาช่วยจากภายนอก จะช่วยกันสร้างกระบวนการที่มีประสิทธิภาพขึ้นมาได้อย่างไร มากกว่าจะเน้นที่ซื้อเครื่องมือซอฟท์แวร์อะไรมาใช้ ส่วนด้านการลงทุนนั้นก็ควรจะมีหลักการชี้ชัดเรื่องของตัววัดก่อนที่จะลงมือนำ ITIL มาปรับเปลี่ยนกระบวนการ เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ถึงความคุ้มค่าในการลงทุนได้อย่างชัดเจน
ข้อมูลดังกล่าวนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อผู้บริหารขององค์กร ที่จะใช้ในการลงทุน ปรับเปลี่ยน ทั้งกระบวนการ และบุคคลากรซึ่งเราเล่งเห็นความสำคัญนี้ จึงได้มีนโยบายดังกล่าวเพื่อพัฒนาบริษัทฯ เพื่อให้บริการลูกค้าอย่างมืออาชีพและรับประกันความสำเร็จของลูกค้าด้วย ตามนโยบาย Care and Share ของเราจากแนวคิด วิสัยทัศน์ คู่ค้าและการบริหารจัดการดังกล่าว ทำให้ บริษัทฯ เติบโตมาแล้วกว่า 10 ปี และมีลูกค้ามากมายที่ให้ความไว้วางใจกับบริษัทฯและทีมงาน ช่วยสนับสนุนระบบไอซีที ขององค์กร เช่น บริษัท ไทยคม , บริษัท Global Crossing, มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา, มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต, และองค์กรต่าง ๆ อีกมากมาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น